อุปกรณ์สมาร์ทโฮม ฉลาดมากยิ่งขึ้น สามารถที่จะจดจำโทนเสียงเพิ่มขึ้น ด้วยการประมวลผลรูปแบบออนไลน์

อุปกรณ์สมาร์ทโฮม

อุปกรณ์สมาร์ทโฮม 2022 ที่จะช่วยให้การอยู่บ้าน การทำกับข้าวของคุณเป็นเรื่องที่ง่ายดายสุด ๆ ไม่ลำบากอีกต่อไป

อุปกรณ์สมาร์ทโฮม รวม 7 อุปกรณ์สมาร์ทโฮมยอดฮิต smart home มีอะไรบ้าง ที่นิยมใช้กันในบ้านยุคใหม่ ว่าด้วยเรื่องของสมาร์ทโฮม ก็กลายเป็นอุปกรณ์สุดล้ำ ที่มักจะติดตั้งในบ้านยุคใหม่ แล้วบริษัทยักษ์ใหญ่หลากหลายบริษัท ก็ลงทุนกับเรื่อง อุปกรณ์สมาร์ทโฮม นี้ ด้วยงบประมาณจำนวนมากเลยทีเดียว แต่ในวันนี้เอง ก็ไม่ได้มีเพียงแค่ Googleแค่อย่างเดียวเท่านั้น

แต่ยังมีอีกหลายบริษัท ที่ได้ผลิตออกแบบ อุปกรณ์ดังกล่าวนี้ ซึ่งในบทความก็ได้ คัดกันมาแล้วว่า เป็นอุปกรณ์ที่โดดเด่น แล้วยังเป็นที่นิยม ในระดับโลกกันอีกด้วย ลองมาดูกันว่า จะมีอุปกรณ์ใดที่น่าสนใจกันบ้าง

อุปกรณ์สมาร์ทโฮม

มากันที่อุปกรณ์ตัวแรก อุปกรณ์ชิ้นนี้มีชื่อว่า Amazon Echo โดยที่คุณสามารถ สั่งงานโดยใช้เสียง อุปกรณ์ตัวนี้สามารถ เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ สมาร์ทโฮมตัวอื่นๆ ที่อยู่ในบ้านของคุณ สามารถรับคำสั่ง แล้วส่งต่อไปยัง อุปกรณ์ตัวอื่น ที่รับคำสั่งเสียงไม่ได้

ยกตัวอย่างเช่น การเปิดปิดไฟ หรือจะเป็นกล้องวงจรปิด หรือจะเป็นสั่งงาน ให้รดน้ำต้นไม้ ให้รับสายโทรศัพท์ หรือจะเป็นการ เปิดหนังหรือว่าเปลี่ยนเพลง สั่งพิซซ่าหรือว่า สอนการบ้านเด็กก็ย่อมได้

อุปกรณ์สมาร์ทโฮม สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้น อุปกรณ์ตัวนี้จำเป็นจะต้อง เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต อยู่เป็นประจำ ยิ่งคุณใช้งานมัน ด้วยระยะเวลานานเท่าไหร่ มันก็จะฉลาดมากยิ่งขึ้น

อุปกรณ์สมาร์ทโฮม สามารถที่จะจดจำโทนเสียงเพิ่มขึ้น ด้วยการประมวลผลรูปแบบออนไลน์นั่นเอง และประโยชน์ของมันก็ยังมี อีกมากมายก่ายกอง ก็ต้องยกให้กลับอุปกรณ์ Amazon Echo ตัวนี้ และข้อเสียอย่างเดียว

ในขณะนี้นั้น ก็ไม่ได้รองรับภาษาไทย แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการเพิ่มเติม ฟังก์ชันภาษาไทยในอนาคต มากันที่อุปกรณ์ชิ้นที่ 2 อยากเปิดปิดปลั๊กได้ด้วยความสะดวก ก็ควรหาอุปกรณ์ตัวนี้ อย่างอุปกรณ์ชื่อว่า Belkin WeMo

สำหรับปลั๊กดังกล่าว จะเปลี่ยนปลั๊กแบบเดิม ที่ไม่ได้มีคุณสมบัติ Smart ให้ฉลาดขึ้นนั่นเอง สำหรับฟังก์ชัน ก็เป็นควบคุมการจ่ายไฟ แล้วยังสามารถ ตรวจสอบไฟฟ้าที่ เราได้ใช้งานอยู่ โดยที่สามารถตั้งเวลา เปิดและปิดกันได้

อุปกรณ์สมาร์ทโฮม

การแปรผันนั้นก็ขึ้นอยู่ กับกฎที่หลากหลาย เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณได้เชื่อมต่อกับ IFTTT ก็ยกตัวอย่างเช่น ขณะที่คุณกำลัง จะกลับถึงบ้านก็จะมีการส่งข้อมูล มาที่อุปกรณ์ตัวนี้ อุปกรณ์ตัวนี้ก็จะ สั่งงานปลั๊กให้ จ่ายไฟไปที่ อุปกรณ์ของคุณที่คุณต้องการ

ด้วยคุณสมบัติดังกล่าว ทำให้คุณสามารถที่จะ ประยุกต์ไปใช้กับอุปกรณ์ Smart Home ได้หลากหลายตัว และหลากหลายการทำงาน ยกตัวอย่างเช่น การอุ่นกับข้าว หรือว่าจะเป็นการเปิดประตู

smart home มีอะไรบ้าง ซึ่งแต่ละการใช้งาน ก็ง่ายเป็นอย่างมาก เพียงแค่คุณเสียบปลั๊ก อุปกรณ์ตัวนี้ก็จะ เชื่อมต่อข้อมูลเท่ากับ WiFi ในบ้านของคุณ โดยที่คุณสามารถควบคุม ได้ผ่านมือถือของคุณเอง

อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง กับแสงไฟแล้วก็ อุปกรณ์สวนอัจฉริยะ สำหรับอุปกรณ์ตัวที่สาม อาจจะเรียกอุปกรณ์ตัวนี้ ว่าสมาร์ทการ์เด้น ก็ได้เช่นกันอุปกรณ์ ตัวนี้ก็มีชื่อว่า Rachio ซึ่งสามารถควบคุม สปริงเกอร์สำหรับรดน้ำ ที่ฉลาดอย่างมาก อีกทั้งยังเครมว่าสามารถ ประหยัดน้ำได้มาก ถึง 50% ทีเดียว

ซึ่งสามารถเชื่อมต่อผ่าน Wifi โดยที่สามารถควบคุม การรดน้ำของต้นไม้ จากแต่ละแปลงได้ ซึ่งจะได้รับความชื้น ที่มีความแตกต่าง ด้วยปริมาณที่เหมาะสม รับรู้ถึงสภาพอากาศ ว่าวันไหนฝนตก ก็จะไม่ทำงาน ทราบถึงต้นไม้หลากประเภท และดินที่แตกต่าง แสงแดดในแต่ละวัน มีปริมาณมากแค่ไหน รดน้ำเท่าไหร่ถึงจะพอดีกับพันธ์ุพืชนั้น ๆ ได้อย่างดีที่สุด

อีกทั้งยังสามารถช่วยตรวจสอบความชื้น แล้วยังควบคุมได้ ผ่านสมาร์ทโฟนจากทั่วโลก และเช่นเคยสามารถ สั่งงานด้วยเสียงผ่าน Amazon Echo ได้ด้วย มากันที่ตัวที่ 4 กับอุปกรณ์ที่มีชื่อว่า Nest Learning Thermostat ซึ่งทางบริษัทเองก็ได้ ผลิตมาเพียงแค่ 2 ชิ้น แล้ว Google ก็เข้าซื้อโดยมีราคาที่มาก ถึงหนึ่งแสนล้านบาท

เพื่อไปเพิ่มเติมให้กับ smart home นวัตกรรมใหม่ ระบบบ้านอัจฉริยะ โครงการบ้านอัจฉริยะของ Google นั่นเอง ด้วยความที่ว่าอุปกรณ์ดังกล่าวนี้ สามารถทำงานได้ระดับเดียวกับ เอไอหรือว่าปัญญาประดิษฐ์ กันเลยทีเดียว โดยที่ข้อดีก็คือ อุปกรณ์ชิ้นนี้ไม่ได้ทำงาน

เป็นเพียงแค่ อุปกรณ์สมาร์ทโฮม ตัวรับคำสั่ง แต่ยังสามารถที่จะ เรียนรู้การใช้ชีวิต ของเจ้าของอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมต่างๆในบ้าน ซึ่งสามารถช่วยเหลือให้ คุณจัดการกับอุณหภูมิในบ้านของคุณ ได้แบบสบายกันเลยทีเดียว

คุณไม่จำเป็นจะต้อง คอยปรับแอร์ให้ยุ่งยาก การทำงานก็สามารถเรียนรู้ พฤติกรรมที่เพิ่มขึ้น ได้แบบเรื่อย ๆ นอกจากสบาย ต่อการนำมาใช้งานแล้ว ยังประหยัดค่าไฟกันได้มากถึง สามสิบหกเปอร์เซ็นต์

อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับกล้อง แล้วก็อุปกรณ์สมาร์ทโฮม แสงไฟป้องกันขโมย นั้นดีงามแค่ไหน มากันที่อุปกรณ์ตัวที่ 5 เป็นอุปกรณ์จากแบรนด์ Nest ก็คือกล้องวงจรปิด แต่อาจจะไม่ได้ใช้งาน เหมือนกับชื่อของมัน จากความสามารถนั้น ใช้ร่วมกันกับระบบคลาวด์ และการทำงานก็คล้ายคลึงกับกล้องวงจรปิด ภาพที่ตรวจจับได้

อุปกรณ์สมาร์ทโฮม

ก็จะส่งตรงไปยัง เจ้าของโทรศัพท์ สามารถที่จะดูย้อนหลัง รวมถึงที่สนทนากันได้ 2 ทางซึ่งเป็นฟังก์ชันเบื้องต้น ที่เหมือนกับ กล้องวงจรปิดโดยทั่วไป แต่สำหรับข้อดี ของอุปกรณ์ตัวนี้ เนื่องจากมีอัลกอริทึม ซึ่งช่วยให้วิเคราะห์ว่า สิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่นั้น เป็นมนุษย์หรือไม่

โดยที่ฟีเจอร์ที่ว่านี้ โครงการสมาร์ทโฮม จะต้องเสียเงินเป็นรายเดือน นั่นก็หมายความว่า เมื่อมีการแจ้งเตือน ขึ้นมาที่สมาร์ทโฟน นั่นหมายความว่าเป็นคนจริง ไม่ใช่อย่างอื่นที่ผ่าน ไม่ใช่แค่รถยนต์ และไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยง และการดูย้อนหลังจากคลาวด์ ก็สามารถดูย้อนหลังได้ มากกันถึง 30 วันทีเดียว

อีกทั้ง อุปกรณ์สมาร์ทโฮม ยังคอยแจ้งว่า ส่วนใดที่สำคัญของ Timeline เป็นจุดที่จำเป็นจะต้องตรวจสอบ โดยที่คุณไม่ต้องเลื่อนไปดูเอง ให้เสียเวลากันอีกต่อไป มาต่อกันที่ตัวที่ 6 กับอุปกรณ์มีชื่อว่า Philips Hue โดยเป็นหลอดไฟแบบ IoTซึ่งออกมาตั้งแต่ยุคแรก โดยที่การตั้งเวลา ในการเปิดปิด สามารถทำได้ทุกที่ในโลก เป็นประโยชน์อย่างมาก

สำหรับคนที่ไม่ค่อยอยู่บ้าน และการปรับแสงนั้น สามารถทำได้ถึง หมื่นเฉดสีกันเลยทีเดียว ให้คุณได้ผ่อนคลาย หรือว่าจะได้อ่านหนังสือ หรือหากโฟกัสแล้ว สร้างความรู้สึกให้คุณ ได้รับความสดชื่น และหากได้เชื่อมต่อกับ IFTTT

ก็สามารถที่จะ ประยุกต์ไปทำอย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดไฟแบบกะพริบ ในขณะที่ได้รับอีเมล หรือเมื่อขับรถมา ใกล้จะถึงบ้าน ที่สำคัญไปกว่านั้น ก็เป็นราคาที่จับต้องได้ อีกทั้งยังประหยัดพลังงาน เนื่องจากเป็นไฟ LED

และหากหรี่ไฟแล้ว ส่งผลให้ประหยัดมากขึ้น มากันที่อุปกรณ์ตัวที่ 7 นั้นก็มีชื่อว่า BeON เป็นหลอดไฟที่ออกแบบมาเพื่อ ความปลอดภัย ได้โดยแท้จริง โดยที่มีราคาแพงกว่าหลอดไฟของ Philip แต่ก็มีความพิเศษ

เนื่องด้วย อุปกรณ์สมาร์ทโฮม การออกแบบ จัดทำออกมาเพื่อความปลอดภัยโดยตรง โดยที่ข้อดีก็คือใช้หลอกผู้ร้ายว่า ในขณะนี้มีคนอยู่บ้าน หลักการทำงานก็คือ จดจำทุกรูปแบบของการเปิดปิดไฟ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน และจะทำแบบนี้อีกครั้งหนึ่ง

เมื่อพบว่าไม่มีคนอยู่บ้าน เวลาที่มีโจรมาก็อาจจะคิดว่ามีคนอยู่ และถ้ามีโจรมา ก็มีความเป็นไปได้ ที่จะคิดว่ามีคนอยู่บ้าน และการเปิดของหลอดไฟ จะเป็นการไล่เปิดตั้งแต่ห้องนอนลงมา เหมือนกับมีคนอยู่จริง

อีกทั้งยังสามารถ จำเสียงสัญญาณของเครื่องตรวจควันได้ และไฟจะเปิดสว่างทั้งหมดทุกดวง เมื่อเครื่องตรวจควันมีสัญญาณดังขึ้นมา และถ้าไฟดับขึ้นมา หลอดไฟก็ยังทำงานต่อได้อีกถึงห้าชั่วโมง เนื่องจากมีแบตเตอรี่ในตัว

กับตัวสุดท้ายในบทความ ล็อกประตูได้อย่างชาญฉลาด กันด้วย August ด้วยระบบสำหรับ ล็อกประตูบ้านด้วยแอพลิเคชั่น ในสมาร์ทโฟนของคุณ และสิทธิ์ในการเข้าบ้านนั้น ก็สามารถแชร์ไปให้ ผู้อื่นนั้นดูได้ด้วย อีกทั้งยังสามารถตอบโต้ ด้วยเสียงกบผู้ที่ได้กดกริ่ง ด้วยกล้องหน้าประตู

ติดตามบทความ แนะนำ Gadget และ สมาร์ทโฮม กันต่อได้ที่ >>> @UFA-X10

 

เรียบเรียงโดย อลิส