หูฟังแบบครอบหู บริษัท “Apple” มีการคิดค้น “หูฟังประเภท Over-Ear” หรือที่เรียกว่าหูฟังแบบครอบหู โดยมีฟังก์ชันการทำงานคือ “ระบบตัดเสียงรบกวน noise-cancellation
หูฟังแบบครอบหู ในปี 2017ที่ผ่านมา บริษัท Apple มีการออกมาประกาศ วางจำหน่ายอุปกรณ์ “Airpod” ในตอนนั้นได้รับความคิดเห็นมากมาย ทั้งเรื่องของรูปลักษณ์ที่แปลกตา ซึ่งในที่สุดก็ได้กระแสตอบรับ จากผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก หูฟังแบบครอบหูjbl อย่างเช่น การทำงานร่วมกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ใน ecosystem จากบริษัท Apple ด้วย จึงเป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้คน
และในปี 2019 บริษัท Apple มีการออกวางจำหน่าย Airpod Pro โดยมีฟังก์ชั่นการตัดเสียงรบกวนอีกด้วย ในเวลาต่อมาบริษัท “Apple” ได้ออกเปิดเผยว่า ได้มีการคิดค้นหูฟังที่เป็น “Over-Ear” หรือที่เรียกว่าหูฟังแบบครอบหู มีคุณสมบัติก็คือระบบ ตัดเสียงรบกวน (noise-cancelling over-ear headphones) คล้ายคลึงกับหูฟังจากยี่ห้ออื่น ๆ ซึ่งมีประสิทธิภาพ Customize ชิ้นส่วนของหูฟังแบบอัตโนมัติได้อีกด้วย โดยคล้าย ๆ กับการ customize ใน Apple watch
ไม่เพียงเท่านั้น ตัวหูฟังแบบครอบนี้ดัง ยังมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ 2 รูปแบบ หูฟังแบบครอบหูยี่ห้อไหนดี pantip ซึ่งแบบแรกก็คือ “Premium version” จะให้ความหรูหรา มีผ้าสังเคราะห์เป็นวัสดุส่วนใหญ่ รวมถึงให้ความรู้สึกถึง ผิวสัมผัสคล้ายกับผิวหนัง
มาต่อกันที่แบบที่ 2 เหมาะสำหรับการ “ออกกำลังกาย สาย Sport” โดยจะให้น้ำหนักเบา อีกทั้งยังระบายอากาศได้ดีกว่า ซึ่งหูฟังแบบ Over-Ear รุ่นนี้ ยังใช้ระบบคำสั่งเสียงโดยผ่านทาง Siri ได้ รวมถึงยังสั่งการด้วยระบบสัมผัส ที่อยู่กับตัวหูฟังได้ด้วยเช่นกัน
ไม่เพียงเท่านั้น หูฟังแบบ “Over-Ear” จาก Apple นั้น มีการคิดค้นมาตั้งแต่ปี 2019 แต่ทางบริษัทมีการเลื่อนในแผนการนี้มาถึง 2 ครั้ง อีกทั้งยังมีโครงการ ที่จะเปิดตัวหูฟังแบบ “Over-Ear” รุ่นนี้ ในปี 2020 ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสถานการณ์ของโรคระบาดนี้ จึงส่งผลให้การเปิดตัวได้เลื่อนออกไปอีก
เมื่อปี 2018 บริษัท Apple มียอดขายจากสินค้าประเภท Accessories หูฟังครอบหู ใส่สบาย รวมถึงอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ อย่าง Airpod และ Apple watch และหูฟังยี่ห้อ Beat เพราะ Apple ถือหุ้น Beat อยู่ มากกว่า 2.76 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
คิดเป็นเงินไทยประมาณ 7.5 แสนล้านบาท เรียกได้ว่าเกือบเทียบเท่ารายได้ของ Apple Mac และยังเยอะกว่ายอดขายจาก iPad ถึง 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ
การคิดค้น “หูฟัง” จากบริษัท Apple ในปัจจุบันนี้ เรียกได้ว่าคือการเคลื่อนไหว ที่น่าสนใจ อีกทั้งยังน่าจับตามองมาก ๆ เนื่องจากบริษัท Apple มีการคิดค้นอุปกรณ์หูฟังประเภท Over-Ear หรือที่เป็นประเภทครอบหูครั้งแรก
โดยเฉพาะบรรดาแฟนคลับของ Apple ที่นิยมการใช้งานหูฟังประเภท Over-Ear อยู่แล้ว ถ้าหากมีการเปิดตัวหูฟังรุ่นนี้ขึ้นมา หูฟังครอบหู เบสหนัก น่าจะสร้างแรงสั่นสะเทือน ให้กับตลาดหูฟังทั่วโลกเลยทีเดียว
มาดูกันที่ทางฝั่งเอเชียกันบ้าง หูฟังไร้สายแบบพรีเมี่ยม ของบริษัทโซนี่ ในประเทศญี่ปุ่น ได้ออกวางจำหน่ายหูฟังรุ่น WH-1000XM ซึ่งเป็นเวอร์ชัน 4 มีการพัฒนาฟังก์ชั่นด้านเทคโนโลยี หลีกเลี่ยงเสียงรบกวนมีการใช้เทคโนโลยี AI
ล่าสุดที่บริษัทโซนี่ แนะนำ Gadget มีชื่อว่า EDGE-AI อีกทั้งตัวเซ็นเซอร์ตรวจจับ และพัฒนาวิเคราะห์อย่างดี มีประสิทธิภาพในการประเมิน สภาพแวดล้อมตามสถานการณ์ ๆ ได้แบบแน่นอน
ซึ่งหูฟังรุ่น WH-1000XM4 มีการใส่อุปกรณ์ประมวลผลแบบ HD Noise Canceling QN1 อีกทั้งยังมีเซ็นเซอร์คู่ คอยตัดเสียงรบกวนที่มาจากข้าง และข้างใน หูฟัง สิ่งที่ไม่เหมือนกับรุ่นเดิม WH-1000XM3 เพราะมีการเปลี่ยนแปลง ชิ้นส่วนใหม่ทั้งหมดจากจุดแรกเริ่ม
อีกทั้งยังใช้อุปกรณ์ระบบเสียงแบบ (SoC) ที่ใหม่ล่าสุด มาพูดถึงทางด้านการสวมใส่ มีการออกแบบผลิตภัณฑ์เอียร์แพด ที่สวมใส่อย่างกระชับ รวมถึงใส่สบายมากที่สุด
หูฟังรุ่น WH-1000XM4 ทำให้ผู้ใช้งานสัมผัสในการใช้หูฟังแบบ Noise Canceling อีกทั้งความอัจฉริยะของ AI รวมถึงระบบเซ็นเซอร์ และระบบ Adaptive Sound Control มีการบันทึกโลเคชั่นที่ไปบ่อย ของผู้ใช้งานเอาไว้
อีกทั้งมีการสลับระหว่างฟังก์ชั่น Noise Canceling และ Ambient Sound ได้อย่างอัตโนมัติตามเหตุการณ์ในตอนนั้น อีกสิ่งที่ทางบริษัทภูมิใจนำเสนอ ก็คือฟังก์ชั่น Speak-to-chat ซึ่งออกแบบให้ผู้ใช้งานสวมใส่อยู่ ยังพูดคุยกับคนรอบข้างได้โดย ไม่ต้องมีการถอดหูฟังออก หรือกดปุ่มอะไรทั้งนั้น
ตัวเซ็นเซอร์จะประมวลผล เสียงของผู้ใช้งานจากนั้นจะหยุดเล่น ได้อย่างอัตโนมัติ ในเวลาต่อมาก็จะกลับมา เล่นต่อเมื่อผู้ใช้งานหยุดการบทสนทนานั้น
ไม่เพียงเท่านั้น มีการทำงานของระบบเสียง 360 Reality Audio อยู่บนแอพพลิเคชั่นที่มีการสตรีมเพลง มีการเลียนแบบเสียงดนตรี ที่อยู่ล้อมรอบศีรษะแบบรอบด้าน ตามลักษณะของใบหูเฉพาะตัวของผู้ใช้งาน
คุณสมบัติของ Sony WH-1000XM4 ไดนามิกไดรเวอร์ความจุ 38 มม. (CCAW Voice coil) ที่รองรับความถี่ 4 Hz-30,000 Hz ทำงานร่วมกับ LDAC บลูทูธ ความละเอียด 23Bit/87 KHz บิตเรต 879 kbpsDSEE Extreme @UFA-X10
มีการเพิ่มประสิทธิภาพ ระบบเสียงแบบเรียลไทม์ หูฟังครอบหูพร้อมไมค์ มีการใช้งานด้วยคำสั่งเสียง Google Assistant อีกทั้ง Amazon Alexa ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานถึง 28 ชั่วโมง ก็คือปิดโหมด Noise Canceling และนานถึง 31 ชั่วโมง เมื่อใช้งานโหมด Noise Canceling มีฟังก์ชั่นชาร์จเร็วโดยพอร์ต USB-C ชาร์จ 8 นาที ใช้ฟังเพลงได้นานถึง 5 ชั่วโมง
สำหรับคนไหนที่สนใจ หรือชื่นชอบการใช้หูฟังอยู่แล้ว ข้อมูลหูฟังไร้สายจาก 2 บริษัทซึ่งเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยี ที่เอามาเล่าให้ฟังในวันนี้ ถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว
และถ้าใครที่บอกว่ามีงบจำกัด หูฟังครอบหู ราคาไม่เกิน 1000 หรือ หูฟังครอบหู ราคาไม่เกิน 500 จนถึง หูฟังครอบหู ราคาไม่เกิน 300 ก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าชั้นนำ ที่อาจจะมีโปรโมชั่นเพื่อส่งเสริมการขาย ในรุ่นหรือยี่ห้ออื่น ๆ เช่นกันค่ะ
เรียบเรียงโดย อลิส